T O P

UFABETWIN “เซาธ์เกต” ลั่น “อังกฤษ” ขอเข้ารอบหลังจบนัด 2 ฟุตบอลโลก 2022 อัปเดต “เคน-แม็กไกวร์”

UFABETWIN กุนซือทีมชาติอังกฤษ

UFABETWIN อัปเดตอาการล่าสุดของ 2 ตัวเก่ง พร้อมเผยเป้าหมายที่เล็งไว้หลังจบฟุตบอลโลก 2022 นัด 2 พบ สหรัฐอเมริกา

แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมล่าสุดก่อนเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 กลุ่มบี ซึ่งจะพบกับ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ในวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายนนี้ แข่งขันช่วงดึก 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

เซาธ์เกต พูดถึง แฮร์รี เคน ดาวยิงกัปตันทีมชาติอังกฤษที่เจ็บข้อเท้า รวมถึง แฮร์รี แม็กไกวร์ ปราการหลังตัวเก่งที่มีอาการผิดปกติ ทำให้ทั้งคู่ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงท้ายเกมแรกที่ชนะ อิหร่าน 6-2 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “แฮร์รี เคน สบายดีแล้ว

แม้เขาจะแยกจากกลุ่มออกมาซ้อมบ้าง แต่ทุกอย่างจะเป็นปกติสำหรับคืนวันศุกร์ หลังจากเข้ารับการสแกน (เมื่อวันพุธ) เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี”

“ส่วน แฮร์รี แม็กไกวร์ เขารู้สึกไม่สบาย และนั่นส่งผลต่อการมองเห็นของเขา คุณอาจกังวลเกี่ยวกับการกระแทกในตอนนั้น แต่เรากลับไปดูฟุตเทจทั้งหมดแล้ว และมันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงอยู่ในโอกาสที่ดี”

ขณะเดียวกัน ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ไม่มีชื่อในเกมแรก เนื่องจากยังไม่สมบูรณ์หลังเพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัดกล้ามเนื้อโคนขาหนีบ คาดว่าจะกลับมาฟิตทันในเกมพบ

สหรัฐอเมริกา ด้าน คัลลัม วิลสัน กองหน้านิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่ยังกลับมาซ้อมไม่ได้ น่าจะหายทันมีชื่อในเกมที่ 2 แต่ เจมส์ แมดดิสัน กองกลางเลสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งหายเจ็บเข่าก่อนเดินทางมา ยังไม่สามารถลงซ้อมครั้งแรกที่กาตาร์ได้

อย่างไรก็ตาม เซาธ์เกต เผยเป้าหมายว่าเขาต้องการให้ อังกฤษ ชนะ สหรัฐอเมริกา ในนัดที่ 2 เพื่อการันตีเข้ารอบ ก่อนเกมสุดท้าย กลุ่มบี ที่จะพบ เวลส์ วันที่ 29 พฤศจิกายน

โดยบอกว่า “เป้าหมายแรกคือการเข้ารอบเป็นทีมแรก เราอยากทำแบบนั้นให้ได้ในวันศุกร์ แต่เกมนี้จะไม่เหมือนวันจันทร์ที่ผ่านมา เพราะ สหรัฐอเมริกา เป็นทีมที่มีความเร็ว กดดันได้ดี เล่นร่วมกันได้ดี และมีโค้ชที่ดี”

หนังม้วนเดิม? “เยอรมนี” อาจตกรอบแรก “ฟุตบอลโลก” 2 สมัยติด-ส่อเจองานหินรอบ 16 ทีม ผลจากการแพ้ ญี่ปุ่น ในนัดเปิดหัวฟุตบอลโลก 2022 อาจทำให้ เยอรมนี ตกรอบแรกเวิลด์คัพ 2 สมัยซ้อน หรือเจอของแข็งในรอบ 16 ทีม

UFABETWIN

ควันหลงคู่พลิกล็อกในศึกฟุตบอลโลก 2022 คู่ที่ 2 ของวันนี้

ที่สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม เมืองอัล รายยาน ประเทศกาตาร์ ซึ่ง ทีมชาติเยอรมนี อันดับ 11 ของโลก พลาดท่าแพ้ ทีมชาติญี่ปุ่น อันดับ 24 ของโลก ในรอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก กลุ่มอี ด้วยสกอร์ 1-2

ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้ “อินทรีเหล็ก” มีโอกาสตกรอบแรก เช่นเดียวกับในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ซึ่ง เยอรมนี ก็ปราชัย เม็กซิโก 0-1 ตั้งแต่เกมแรกในรอบแบ่งกลุ่ม

กลุ่มเอฟ ก่อนชนะ สวีเดน 2-1 ในนัดที่ 2 แต่มาพลาดท่าแพ้ เกาหลีใต้ 0-2 ในเกมสุดท้าย ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านก่อนกำหนด ชนิดหมดสภาพแชมป์เก่าเมื่อปี 2014

ทั้งนี้ โปรแกรมอีก 2 นัดของ เยอรมนี ในฟุตบอลโลก 2022 กลุ่มอี ยังต้องเจอกับ ทีมชาติสเปน วันที่ 27 พฤศจิกายน และ ทีมชาติคอสตาริกา วันที่ 1 ธันวาคม ซึ่งก็อาจต้องลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์ในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม

นั่นหมายความว่า เยอรมนี อาจต้องไปเจอกับ เบลเยียม ในรอบ 16 ทีม ซึ่ง ทีมชาติเบลเยียม ถือเป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์กลุ่มเอฟ ที่มี แคนาดา, โมร็อกโก และ โครเอเชีย เป็นคู่แข่งร่วมสาย UFABETWIN

 

UFABETWIN แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมเปลี่ยนตัว โรนัลโด้ เป็น เอ็มบัปเป้? ใครคือกองหน้าที่ ‘เข้าถึงได้มากกว่า’?

UFABETWIN แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมเปลี่ยนตัว โรนัลโด้ เป็น เอ็มบัปเป้? ใครคือกองหน้า ที่ ‘เข้าถึงได้มากกว่า’?

UFABETWIN แน่นอนว่า พาดหัวข่าวคือ และนั่น ก็ค่อนข้าง เป็นเรื่องราวจาก ที่อ้างว่า เป็นหนึ่งใน ไม่กี่สโมสร ที่มีสิทธิ์ทางการเงิน ที่จะจ่ายเงิน 150 ล้านปอนด์ -แถมค่าโอนที่ดินเขา’ นั่นอาจ เป็นเช่นนั้น แต่ทำไม ถึงเข้าร่วมกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

ซึ่งไม่เคยท้าทาย ตำแหน่งพรีเมียร์ลีก หรือแชมเปี้ยนส์ลีก เลยตั้งแต่การเกษียณอายุ ของเซอร์อเล็กซ์เฟอร์กูสัน ไม่น่าแปลกใจ เลยที่รายงานฉบับ เดียวกันอธิบายว่า ผู้เล่นคนอื่นเป็น ‘เข้าถึงได้มากกว่า’ ผู้เล่นคนนั้นคือ วิคเตอร์ โอซิมเฮน

กองหน้า ชาวไนจีเรีย ของนาโปลี ซึ่งทำไป 9 ประตูจาก 11 เกม ในเซเรียอาฤดูกาลนี้ สโมสรในอิตาลี คาดว่า จะส่ง คำถามทั้งหมด เกี่ยวกับ กองหน้า ค่าตัว 60 ล้านปอนด์ ในเดือนมกราคม และยูไนเต็ดน่าจะอยู่ในคิวนั้น เรากำลังพบว่า

มันค่อนข้างยาก ที่จะเชื่อว่าเขา กำลังจะสละตำแหน่ง แชมป์และ แคมเปญ แชมเปียนส์ลีก เพื่อแย่งชิงอันดับ 4 ในใจ เอแด็น อาซาร์ สตาร์ของ เรอัล มาดริด เปิดเผยว่าเขาพร้อมบอกลาทัพ “ราชันชุดขาว” ถ้าตัวเองไม่เป็นที่ต้องการแล้ว

“ผมยัง เหลือสัญญาอยู่อีก 1 ปี และมันขึ้น อยู่กับการตัดสิน ใจของสโมสร ถ้าเกิดสโมสร บอกกับผมว่า เอเด็น (เอแด็น อาซาร์) ขอบคุณสำหรับ 4 ปีที่ผ่านมานะ แต่มันถึงเวลา ที่นายต้องไปแล้ว” “ผมก็จะยอมรับมัน เพราะมันเป็นเรื่อง

ที่เกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา แต่ผมอยาก ลงเล่นมากกว่านี้ ผมอยากแสดง ให้เห็นมากกว่านี้ว่าผม สามารถเล่นได้ รวมทั้งแสดง ให้เห็นว่าผม เป็นนักเตะชั้นดี”

UFABETWIN

บางทีจำเป็นต้อง มีเป้าหมายที่ ‘บรรลุได้มากขึ้น’ เช่น โรนัลโด้ไม่ย้าย ไปบาเยิร์น มิวนิค

มันดูเพ้อฝัน ไปหน่อยที่โรนัลโด้ จะมีตัวเลือกท่าม กลางมหาอำนาจ ของยุโรป และความคิดนี้ ถูกปฏิเสธโดย คริสเตียน ฟอล์ค ผู้ซึ่งเป็นใบหน้า และเสียงของ และอาจเป็นชาย ที่มีการติดต่อ ที่ดีที่สุดที่บาเยิร์น มิวนิค. “ไม่เป็นความจริง

ที่มีการพบกันระหว่างบาเยิร์น และฮอร์เก้ เมนเดส ‘ เป็นทวีตที่เรียบง่ายมาก ดังนั้น มันกลับมา ที่กระดานวาดภาพ สำหรับโรนัลโด้ซึ่ง ได้เล่นเกมสุดท้าย ของเขากับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อย่างแน่นอน โดย ผิวฟันของเขา แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล,

UFABETWIN อาร์เซนอล, เชลซี และท็อตแนม – ใช่แล้ว นั่นคือ สโมสรบิ๊กซิกซ์ ทุกแห่ง – กำลังได้รับเครดิตด้วย ความสนใจใน มิลาน สคริเนียร์ ซึ่งพร้อมโอนฟรี ในช่วงฤดูร้อนปี 2023 . ตามรายงานจาก 90 นาที อินเตอร์ มิลาน ยังไม่มีข้อตกลง

กับสคริเนียร์ ซึ่งเอเย่นต์ของเขากำลังติดต่อ กับทุกสโมสรข้างต้น “แหล่งข่าว ที่ใกล้ชิด กับฝ่ายกัลโช่ เซเรีย อา ย้ำถึง 90 นาทีว่าการพูดคุย กับสคริเนียร์ ยังไม่พังทลายลง แต่ด้วยเส้นตาย ที่พวกเขากำหนดได้ ผ่านไปแล้ว

จึงมีความตระหนัก ว่าผู้สนใจจาก ทั่วโลกกำลัง เตรียมเคลื่อนไหว สำหรับ เซ็นเตอร์แบ็ค” ‘ ดูเหมือนว่า ไม่น่าเป็นไปได้ มากที่ชาวสโลวะ เกียจะตกลงอยู่ กับอินเตอร์ต่อไป เมื่อเขามีรายชื่อ คู่ครองที่น่า ประทับใจ UFABETWIN

UFABETWIN ใจมาเต็ม “โรเบิร์ตสัน” เผยปัจจัยลิเวอร์พูล ลุ้นชนะแมนฯ ซิตี้ หลังขยี้เรนเจอร์ส 7-1

UFABETWIN แบ็กซ้ายลิเวอร์พูล

UFABETWIN เผยปัจจัยที่จะช่วยให้ชนะ แมนฯ ซิตี้ พรีเมียร์ลีก อาทิตย์นี้ หลังได้ความมั่นใจจาก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก นัดล่าสุด

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 10 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่มี 10 คะแนนจาก 8 นัด ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมบิ๊กแมตช์สุดสัปดาห์นี้

ซึ่งจะเปิดบ้านต้อนรับ “แชมป์เก่า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูงที่มี 23 แต้มจาก 9 เกม วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคมนี้ แข่งขัน 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย

กองหลังทีมชาติสกอตแลนด์ ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาลงสนามได้ในรอบ 5 สัปดาห์ ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 กลุ่มเอ

ซึ่งบุกไปชนะ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส 7-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พูดถึงกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ได้ในบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์นี้ว่า “การพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สุดสัปดาห์นี้จะเป็นเกมที่ยากเสมอ พวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมและพวกเขากำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในนาทีนี้”

“มันเป็นเรื่องยากที่จะเล่น กับพวกเขา แต่ถ้าอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด เราก็สามารถ สู้ได้เสมอ ถ้าเมื่อใด ก็ตามที่อยู่ต่ำกว่านั้น มันจะเป็นเกมที่ยากลำบาก แต่ถ้าเราพยายาม อย่างเต็มที่ เรารู้ว่าเราสามารถสร้าง ปัญหาให้ กับทีมใดก็ได้ และนั่นคือสิ่งที่เราต้องตั้งเป้าไว้”

“มันเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม (เกมชนะ เรนเจอร์ส 7-1) และเป็นผล การแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ สำหรับเรา ทุกคนนั้นยอดเยี่ยมมากหลังจากออกสตาร์ตได้ไม่ดี โดยเฉพาะการถูก

เรนเจอร์ส ขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม และแฟนๆ เจ้าบ้านก็ลุกขึ้นมากระตุ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่เราก็จัดการทำให้พวกเขาเงียบลงได้อย่างรวดเร็วด้วยประตูตีเสมอ และหลังจากนั้นผมคิดว่าเราคุมเกมได้เหนือกว่า”

“เฟอร์มิโน” เผย บอกกับ “นูนเญซ” ว่า “ซาลาห์” จะซัดแฮตทริก สุดท้ายเกิดขึ้นจริงโรแบร์โต เฟอร์มิโน ดาวยิงลิเวอร์พูล โวสนั่น รู้อยู่แล้วว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะทำแฮตทริกได้ ในเกมที่บุกไปถล่ม เรนเจอร์ส

ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ เรนเจอร์ส 7-1 ในศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2022-23 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่ 4 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หนึ่งในผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นที่สุดก็คือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกของลิเวอร์พูล ที่ลงสนามมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 68 ก่อนซัดไป 3 ประตู พาหงส์แดงคว้า

UFABETWIN

ชัยไปอย่าง สวยงามและ กลายเป็นนักเตะที่ทำ

แฮตทริกได้เร็วที่สุดในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ด้วยเวลา 6 นาที 12 วินาที (ลูกแรก นาทีที่ 75, ลูกที่สอง นาทีที่ 80 และลูกที่สาม นาทีที่ 81) ซึ่งหลังจบเกม เฟอร์มิโน ที่ทำไป 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ บอกว่าเขารู้อยู่แล้วว่า ซาลาห์ จะทำแฮตทริกได้

“มันน่าอัศจรรย์มาก ตอนที่ซาลาห์ ทำประตุแรกได้ ผมบอกกับ ดาร์วิน นูนเญซ ว่าผมมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า ซาลาห์ จะทำแฮตทริกได้

ผมรู้สึกได้จากม้านั่งสำรอง (เฟอร์มิโนถูกเปลี่ยนตัวออกมานาทีที่ 73) และเขาก็ทำได้อย่างที่ผมพูด ดังนั้นผมมีความสุขกับเขามากๆ เลย” เฟอร์มิโน กล่าว

ทั้งนี้ จากชัยชนะในนัดล่าสุดทำให้ ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 9 คะแนน จาก 4 นัด รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม โอกาสเข้ารอบสดใส UFABETWIN

UFABETWIN ผิดเป็นครู “บรูโน” ชำแหละ 4 บทเรียน “แมนยูฯ” ต้องแก้ เกมโดน “แมนฯ ซิตี้” ยำใหญ่

UFABETWIN จอมทัพแมนยูฯ วิเคราะห์ 4 บทเรียน

UFABETWIN จากเกมพรีเมียร์ลีก ที่โดน แมนฯ ซิตี้ สอนเชิง เพื่อนำมาแก้ไขในเกมต่อๆ ไปบรูโน เฟอร์นันเดส กองกลางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์หลังเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บีแมตช์ ครั้งที่ 188 ซึ่งบุกไปโดน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่มถึง 6-3 ทำให้ “เรือใบสีฟ้า” เก็บเพิ่มเป็น 20 คะแนน แต่ยังรั้งอันดับ 2 ตามหลังจ่าฝูง อาร์เซนอล 1 แต้มเท่าเดิม ส่วน “ปิศาจแดง” มี 12 คะแนน อยู่อันดับ 6 ต่อไป

บรูโน เฟอร์นันเดส วิเคราะห์ 4 บทเรียนที่ แมนยูฯ ได้รับจากความพ่ายแพ้ต่อ แมนฯ ซิตี้ ว่า “ผมคิดว่าปัญหาเกิดจากทัศนคติ และความเชื่อมั่น ซึ่งเราไม่ได้อยู่ในระดับดีที่สุดตั้งแต่เริ่มเกม ผมคิดว่านั่นทำให้เรามีปัญหามากมาย และเสียประตูเร็วในครึ่งแรก”

“หลังจากที่เรามีสกอร์ตามหลัง ผมคิดว่าครึ่งหลังเราเล่นได้ดีขึ้นมาก เราคุมเกมได้มากขึ้น และเมื่อใดก็ตามที่เราได้บอล ดูเหมือนว่าเราจะกล้าเล่นมากขึ้น”

“เห็นได้ชัดว่าเมื่อเราตามหลังคู่แข่งห่างมาก ดังนั้นเราจึงต้องเสี่ยง และแน่นอนว่าเมื่อคุณกล้าเล่นมากขึ้น คุณก็เริ่มทำสกอร์ได้ทันที และเมื่อคุณพยายามบุกมากขึ้นอีก คุณก็เสียประตูมากขึ้น”

“การเล่นกับทีมอย่าง ซิตี้ คุณไม่สามารถเปิดพื้นที่มากขนาดนั้นให้พวกเขาได้ เราผิดหวังจริงๆ แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องโฟกัสกับเกมต่อไป และเข้าใจว่าเราต้องกลับมาเล่นในฟอร์มที่

เราเคยทำได้ก่อนหน้านี้ หากเรามีความเชื่อ, หลักการ, ความสามัคคี และเข้าใจว่าความพ่ายแพ้ไม่สามารถทำให้เราดำดิ่งได้ เราเชื่อว่ามันจะต้องเป็นแรงผลักดันให้เราทำผลงานได้ดีขึ้นในอนาคต”

นัดต่อไป แมนยูฯ จะออกไปเยือน โอโมเนีย นิโคเซีย ที่ไซปรัส ในศึกยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 กลุ่มอี คืนวันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคมนี้ แข่งขัน 23.45 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยสถานการณ์ใน 2 เกมแรก

UFABETWIN

แมนยูฯ แพ้ 1 ชนะ 1 มี 3 คะแนน รั้งอันดับ 2 ต่อจาก

เรอัล โซเซียดัด ที่มี 6 แต้มเต็ม ส่วนทีมเจ้าถิ่นแพ้รวด 2 นัด ยังไม่มีคะแนน.”บาเยิร์น มิวนิก” เฮ 3 นัดรวด ไล่ถล่ม “วิคตอเรีย เพิลเซน” นำฝูงกลุ่ม ศึก UCL

“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก เปิดบ้านไล่ถล่ม วิคตอเรีย เพิลเซน ยับเยิน คว้าชัย 3 นัดรวด นำฝูงกลุ่มซี ศึกยูฟ่า แชมเปีนส์ลีกการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2022-23 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดที่ 3

เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิก จากเยอรมนี เปิดสนามอัลลิอันซ์ อารีนา รับการมาเยือนของ วิคตอเรีย เพิลเซน จากเช็ก
ผลปรากฏว่า บาเยิร์น มิวนิก เอาชนะ วิคตอเรีย เพิลเซน

ไปอย่างขาดลอย 5-0 โดย บาเยิร์น ได้ประตูจาก เลรอย ซาเน 2 ประตู นาทีที่ 7 กับ 51, แซร์จ กนาบรี นาทีที่ 13, ซาดิโอ มาเน นาทีที่ 21 และ เอริก มักซิม ชูโป-โมติง นาทีที่ 59

ทั้งนี้ จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ บาเยิร์น เก็บเพิ่มเป็น 9 คะแนนเต็ม จาก 3 นัด นำจ่าฝูงของกลุ่มต่อไป ส่วน วิคตอเรีย เตะมา 3 นัด แพ้รวสด จมบ๊วยกลุ่ม UFABETWIN

UFABETWIN ไม่ใช่แค่ยุโรป : วงการกีฬาคว่ำบาตรรัสเซีย ส่งผลต่อวงการกีฬาโลกอย่างไร

การคว่ำบาตรรัสเซียในวงการกีฬา ถือเป็นอีกหนึ่งในมาตรการตอบโต้ ไม่ต่างจากการปิดน่านฟ้าหรือกำแพงทางการค้าที่ประชาคมโลกตอบสนอง หลังมหาอำนาจแห่งยุโรปตะวันออกเปิดฉากการโจมตีประเทศยูเครน

แน่นอนว่า รัสเซีย ย่อมได้รับผลกระทบจากการถูกทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยว แต่โลกกีฬายังต้องเดินหน้าต่อไปแม้ปราศจากแดนหมีขาว และต้องเจอกับผลกระทบที่ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน

จะมาเผยให้เห็นว่าวงการกีฬาทั่วโลกจะได้รับผลอะไรบาง เมื่อพวกเขาตัดสินใจตัดรัสเซียออกจากวงการกีฬาแบบไม่มีกำหนด

โค่นต้นไม้สะเทือนถึงดวงดาว

ทุกคนคงเคยได้ยินวลีที่บอกว่า เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว ที่สื่อถึงความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ยิ่งใหญ่มหาศาล ซึ่งวลีดังกล่าวสามารถนำมาใช้เปรียบเทียบกับสถานการณ์ของโลกกีฬาในปัจจุบันได้อย่างใกล้เคียง เพียงแต่อาจต้องเปลี่ยนคำให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้นเป็น “โค่นต้นไม้สะเทือนถึงดวงดาว”

เพราะรัสเซียไม่ใช่ประเทศตัวเล็กตัวน้อย แต่เป็นมหาอำนาจในโลกกีฬาที่มีอิทธิพลทั้งในเบื้องหน้าและเบื้องหลัง โดยการรับบทบาทเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 นับเป็นก้าวสำคัญของแดนหมีขาวในวงการกีฬา ที่ส่งสัญญาณว่าพวกเขาจะเข้ามาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของการต่อรองอำนาจในโลกกีฬา

การถอนรากถอนโคนประเทศรัสเซียออกจากวงการกีฬาจึงถือเป็นส่วนหนึ่งของการคว่ำบาตรมหาอำนาจแห่งยุโรปตะวันออก หลังรัสเซียส่งกองทัพเข้าโจมตีประเทศยูเครน โดยวงการฟุตบอลได้ทำการตอบโต้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นด้วยการแบนรัสเซียจากการเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ รวมถึงแบนรัสเซียจากการแข่งขันทุกรายการที่รับรองโดย สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ และ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ

ส่วนคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือก็สั่งแบนนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ชาวรัสเซียจากเข้าร่วมการแข่งขันกีฬานานาชาติทุกชนิด ซึ่งคำสั่งตรงนี้ในเบื้องต้นจะทำให้รัสเซียหมดสิทธิ์ลงแข่งขันในพาราลิมปิกฤดูหนาว ที่กำลังเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม-เมษายน 2022

ทั้งหมดนี้คือการคว่ำบาตรหลัก ๆ ของวงการกีฬาต่อรัสเซีย ซึ่งผู้ได้รับผลกระทบหลักย่อมหนีไม่พ้นรัสเซียเอง โดยตอนนี้แดนหมีขาวตกอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกว่า หรือ การแยกตัวทางกีฬา ซึ่งจะส่งผลให้รัสเซียยืนหยัดอย่างโดดเดี่ยวโดยปราศจากการสนับสนุนและความร่วมมือจากหน่วยงานส่วนกลาง รวมถึงชาติสมาชิกในแต่ละกีฬา ซึ่งท้ายที่สุดการคว่ำบาตรในลักษณะนี้จะส่งผลให้วงการกีฬารัสเซียค่อย ๆ เสื่อมถอยลงไปตามกาลเวลา

อย่างไรก็ตามวงการกีฬาในภาพรวมทั้งหมดย่อมได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรรัสเซียเช่นกัน แม้จะไม่ใช่ผลกระทบในแง่ลบซึ่งอาจนำมาสู่วิกฤตในภายหลังแบบรัสเซีย แต่การถอดผู้เล่นคนสำคัญออกจากหน้ากระดาน ย่อมทำให้วงการกีฬาฝั่งตะวันตกมีการปรับตัวครั้งใหญ่ด้วยเช่นกัน

เราเห็นความวุ่นวายของ ที่ต้องหาสนามนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2022 แห่งใหม่ หลัง เครสตอฟสกี สเตเดียม หรือ ก๊าซพรอม อารีนา ถูกแบนจากฝ่ายจัดการแข่งขัน, เราเห็นการประกาศยกเลิกสัญญา นิกิต้า มาเซปิน นักแข่งชาวรัสเซียของทีมฮาส ก่อนการแข่งขัน F1 ฤดูกาล 2022 จะเริ่มต้นเพียงไม่กี่วัน, เราเห็นการยกเลิกสัญญาระหว่าง ขณะที่การขยายตลาดกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งในรัสเซียเป็นไปอย่างเข้มข้น

 

UFABETWIN

 

ทั้งหมดนี้คือความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ไม่เล็กน้อย ซึ่งส่งผลกระทบกลับมายังวงการกีฬาหลังการตัดสินใจคว่ำบาตรรัสเซีย มันกลายเป็น ที่วงการกีฬาทั่วโลกต้องยอมรับขณะที่ยังเดินหน้าต่อตามปกติ ขณะที่วงการกีฬารัสเซียก็ต้องหยุดชะงักลง

นี่คือความท้าทายที่วงการกีฬาต้องเผชิญหน้า โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทุกอย่างไม่สามารถหยุดได้ นี่ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามเย็นสิ้นสุดที่บรรดาผู้มีอำนาจในโลกกีฬาต้องเริ่มคิดกันว่า “หากกีฬานี้ไม่จัดการแข่งขันในรัสเซียจะเป็นอย่างไร ?” หรือ “ถ้าทีมเราไม่มีนักกีฬารัสเซียจะเสียหายแค่ไหน ?” ซึ่งถ้าพูดกันตามตรงสถานการณ์เช่นนี้หายไปจากโลกของเราราว 30 ปีแล้ว

สิ่งสำคัญคือไม่มีใครรู้ว่าการคว่ำบาตรรัสเซียจะสิ้นสุดลงเมื่อไร การวางแผนระยะยาวของวงการกีฬาที่จะเดินหน้าโดยตัดรัสเซียออกไปจากความทรงจำอาจเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำในขณะนี้ ย้ำกันอีกครั้งว่าการคว่ำบาตรรัสเซียไม่ได้ก่อปัญหาแก่วงการกีฬาในภาพรวม

แต่ผลกระทบนั้นเกิดขึ้นจริงหลังโค่นต้นไม่ชื่อประเทศรัสเซียออกจากวงการกีฬา นี่จึงถือเป็นคำถามต่อบรรดาผู้มีอำนาจในโลกกีฬาว่าพวกเขาจะจัดการกับความเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร จนกว่าที่ทุกอย่างจะดำเนินไปตามปกติและทุกคนลืมไปว่ามีประเทศรัสเซียอยู่ในโลกกีฬาอีกต่อไป

สร้างโอกาสมากกว่าทำลายล้าง

การคว่ำบาตรรัสเซียยังสร้างผลกระทบสำคัญกับวงการกีฬาในภาพรวมที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งนั่นคือ การเปิดโอกาสทางธุรกิจแก่บรรดาทุนหน้าใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่บรรดากลุ่มทุนรัสเซียที่ถอนตัวหรือถูกคว่ำบาตรออกไป ซึ่งหากพูดกันตามตรงนี่อาจเป็นความเปลี่ยนแปลงที่สร้างผลกระทบต่อวงการกีฬามากที่สุด

เหมือนที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าวงการกีฬาจำเป็นต้องจัดการความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นให้กลับมาเรียบร้อยอีกครั้ง นั่นเป็นเพราะวงการกีฬาจำเป็นต้องเดินต่อไปโดยไม่ติดขัด ซึ่งเป็นสาเหตุของการปฏิรูปวงการกีฬาทั้งหมดในกลายเป็นธุรกิจเหมือนในปัจจุบัน

และเช่นเดียวกับธุรกิจทั่วโลก เมื่อมีผู้ลงทุนใหญ่ตัดสินใจวางส่วนแบ่งของตัวเองลง นี่ย่อมเป็นการเปิดทางให้ผู้สนใจจะเข้ามาทำธุรกิจทางด้านกีฬาก้าวเข้ามาเติมเต็มพื้นที่ตรงนี้ โดยช่องว่างที่รัสเซียทิ้งไว้ในธุรกิจกีฬาคือ การสนับสนุนทีมกีฬา, การแข่งขัน และสิทธิการเป็นเจ้าของทีม ซึ่งเป็นการลงทุนด้วยเงินก้อนโตที่จะตอบแทนด้วยผลประโยชน์มหาศาลในเวลาต่อมา

ตัวอย่างชัดเจนคือการแข่งขันเพื่อเป็นเจ้าของใหม่ของทีมเชลซี หลัง โรมัน อบราโมวิช ประกาศขายทีมอย่างเป็นทางการ นี่คือโอกาสที่บรรดากลุ่มทุนทั่วโลกจะได้เข้ามาครอบครองสโมสรฟุตบอลซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีรายได้ 520 ล้านดอลล์สหรัฐต่อปี ซึ่งถือเป็นโอกาสทางธุรกิจครั้งใหญ่ที่ไม่อาจหาได้จากที่ไหน

เมื่อบวกกับความจริงที่ อบราโมวิช ไม่บังคับให้เจ้าของใหม่ชดใช้หนี้จากเงินกู้ยืมที่เคยให้กับสโมสรจำนวน 1,514 ล้านปอนด์ เหลือไว้เพียงการเข้ามาสานต่อโปรเจ็กต์สร้างสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ แห่งใหม่ ซึ่งจะใช้งบประมาณมากถึง 2 พันล้านปอนด์ นี่จึงถือเป็นการคัดกรองให้แฟนบอลทั่วโลกมองเห็นว่า จะมีเพียงกลุ่มทุนที่มีงบประมาณแข็งแกร่งและความทะเยอทะยาน (ทางธุรกิจ) เท่านั้นที่จะเข้ามาเป็นเจ้าของใหม่ของเชลซี

UFABETWIN

 

ไม่ว่าใครจะก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของเชลซีคนใหม่ ภูมิทัศน์ของวงการฟุตบอลอังกฤษและยุโรปจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการคว่ำบาตรรัสเซีย จึงนำมาสู่การถอนตัวของบรรดาธุรกิจยักษ์ใหญ่ในวงการกีฬา ที่อาจได้รับผลกระทบมากที่สุด

ลองจินตนาการถึงการสนับสนุนที่บรรดาทีมกีฬาทั่วโลกต้องการ หลังธุรกิจรัสเซียมากมายถูกตัดความสัมพันธ์ ใครจะเข้ามาสนับสนุนชาลเก้ 04 แทน ? ใครจะเข้ามายื่นเงิน 40 ล้านปอนด์ ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แทน? ใครจะมาสนับสนุนทีมฮาส แทน Uralkali ? นี่คือคำตอบที่โลกกีฬาต้องการในเร็ววัน และหลายฝ่ายจำเป็นต้องจับตามอง

หากการเข้ามาสนับสนุนทีมกีฬาไม่สร้างผลประโยชน์ใดกลับไป คงไม่มีการแย่งชิงพื้นที่บนหน้าอกเสื้อฟุตบอลอย่างทุกวันนี้ หลักฐานที่ดีที่สุดคือเม็ดเงินมหาศาลที่บรรดา หรือบรรดา “เพื่อนปูติน” ทุ่มลงไปในวงการกีฬาตลอดสิบปีที่ผ่านมา นั่นเพราะพวกเขารู้ว่าการสร้างตัวตนบนเวทีการฬาสามารถเป็นอำนาจอ่อน ที่กำหนดพฤติกรรมผู้คนทั่วโลกได้

เศรษฐีจากตะวันออกกลางอาจลงทุนเพิ่มขึ้น หรือบรรดาธุรกิจจากสหรัฐอเมริกาจะเข้ามาสู่วงการกีฬายุโรปเต็มตัว คำตอบสามารถเป็นไปได้ทุกทาง แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนแน่นอนคือ มีโอกาสทางธุรกิจมากมายถูกทิ้งไว้ในวงการกีฬา หลังบรรดากลุ่มทุนรัสเซียถูกคว่ำบาตรไป

ครั้งหนึ่งรัสเซียเคยสร้างอำนาจผ่านการสนับสนุนฟุตบอลระดับทวีปและระดับโลก ผลลัพธ์คือพวกเขากลายเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก และเป็นเจ้าภาพเกมฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในฤดูกาล แม้รัสเซียจะไม่ใช่มหาอำนาจในโลกลูกหนัง แต่นี่คือภาพสะท้อนว่า “อำนาจ” ในโลกกีฬาปัจจุบันไม่ได้ขึ้นอยู่กับถ้วยแชมป์ แต่เป็นการสร้างอิทธิพลผ่านการสนับสนุน และลงทุนด้วยเม็ดเงิน

น่าสนใจมากว่าประเทศไหนจะสามารถสร้างอิทธิพลจากการจากไปของรัสเซียได้ เรารู้กันดีว่าฟุตบอลหรือวงการกีฬาทุกวันนี้คือการต่อรองอำนาจระดับประเทศ ใครจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก ? ใครจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ? มีแต่เม็ดเงินเท่านั้นที่จำกัดวงตัวเลือกให้เราได้

นี่คือผลกระทบสำคัญที่เกิดขึ้นกับวงการกีฬา เมื่อรัสเซียถูกคว่ำบาตรเนื่องจากการบุกประเทศยูเครน มันอาจหมายถึงการเติบโต หรืออาจหมายถึงการหยุดชะงักของธุรกิจที่กำลังเดินหน้า ซึ่งไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ความจริงที่เกิดขึ้นคือภูมิทัศน์ของวงการกีฬาโลกได้เปลี่ยนและจะส่งผลต่อทุกประเทศทั่วโลกอย่างแน่นอน

UFABETWIN

UFABETWIN ทำได้ไง? : “มาราคาน่า” ชามอ่างยักษ์ที่กาลครั้งหนึ่งเคยยัดแฟนบอลเข้าไปราว 2 แสนคน

ในปัจจุบัน การจะสร้างสนามฟุตบอลให้ใหญ่ระดับจุคนได้มากกว่า 1 แสนคนนั้นมีไม่มากนัก แต่หากย้อนกลับไปเมื่ออดีตกาล สนามมาราคาน่า ในประเทศบราซิลนั้นสามารถจุคนดูได้ราว 2 แสนคน ในเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1950

นี่คือเรื่องราวของสนามที่ถูกเรียกว่า “หัวใจของบราซิล” และถูกตั้งใจไว้ให้เป็นฉากจบที่สวยงาม น่าจดจำที่สุดของฟุตบอลโลก 1950 อย่างไรก็ตาม ราว 2 แสนคนที่ว่าต้องพบกับตอนจบที่พวกเขาไม่คาดคิด และต้องจำฝังใจจนมาถึงทุกวันนี้

แดนฟุตบอลต้องมีสนามฟุตบอลบราซิล เป็นประเทศที่มีความชอบและคลั่งไคล้ในฟุตบอลไม่แพ้ชาติใดในโลก ดังนั้น หลังจากที่พวกเขาได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 1950 จึงมีแนวคิดที่จะสร้าง “ฟุตบอล สเตเดียม” เพื่อประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ ในฐานะเจ้าภาพฟุตบอลโลกสมัยแรกของพวกเขา

บราซิลได้รับการแต่งตั้งก่อนการแข่งขันจะเริ่ม 3 ปี (1947) หลังจากนั้นไม่นานนัก โครงการสร้างสนามฟุตบอลขึ้นมาใหม่ที่นำเสนอโดยรัฐบาลบราซิล ภายใต้การนำของ ยูริโก้ กาสปาร์ ดูตร้า ก็เริ่มขึ้น ก่อนที่จะมีการเพิ่มคอนเซปต์ของสนามที่กำลังวางแผนสร้างครั้งนี้ว่า “ต้องเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก” และตัวเลขความจุของผู้ชมที่ประมาณไว้คือ 180,000 คน

นอกจากจะทำให้ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว พวกเขายังตั้งใจจะทำให้เสร็จพร้อมใช้ภายในเวลาแค่ 2 ปีเท่านั้น ความต้องการแบบสูงสุดทั้งความยิ่งใหญ่และความเร็ว ทำให้พวกเขาจะต้องใช้งบประมาณชาติมหาศาลสำหรับการสร้างสนามฟุตบอลในฝันของชาวบราซิล

แน่นอนว่าย่อมมีคนไม่เห็นด้วย มีการพยายามเดินเรื่องขัดขวางและตีแผ่เรื่องการคอรัปชั่นในส่วนต่างๆตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงกลุ่มคนใส่สูท โดยผู้ที่นำทัพในการต่อต้านครั้งนี้คือ คาร์ลอส ลาเซอร์ดา นักข่าวและนักการเมืองขั้วตรงข้ามรัฐบาล รวมถึงเป็นศัตรูทางการเมืองของ แอนเจโล่ เมนเดส เดอ โมราเอส นายกเทศมนตรีเมืองริโอ เดอ จาเนโร ในขณะนั้น ซึ่งให้เหตุผลว่า การเลือกทำเลที่ตั้งสนามเหมือนถูกล็อกสเปกเอาไว้

แน่นอนว่าแม้เขาจะปลุกระดมได้ระดับหนึ่ง แต่งานใหญ่แบบนี้ถูกพิจารณามาเป็นอย่างดีแล้ว บวกกับได้รับแรงสนับสนุนจาก มาริโอ ฟิลโญ่ นักข่าวกีฬาคนดังของประเทศ (ซึ่งต่อมา ชื่อของเขาถูกนำไปตั้งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของสนามแห่งนี้ด้วย) รัฐบาลบราซิลจึงเดินหน้ากับโครงการนี้ต่อไป พวกเขาจ้างสถาปนิกมือดีที่สุดในประเทศถึง 7 คนมาออกแบบ และเริ่มวางเสาเข็มต้นแรกในวันที่ 2 สิงหาคมปี 1948 จากนั้นคนงานมากกว่า 10,000 คนต่อ 1 กะก็ทำงานผลัดกะกันตลอดทั้งวันทั้งคืนเพื่อให้ได้สนามที่ใหญ่ที่สุดในโลกสมดังที่ตั้งใจ

ผู้รับเหมาทั้งหมด 6 ราย ปูนซีเมนต์ทั้งหมด 5 แสนถุง คานเหล็กมากกว่า 10,000 ตัน ใช้ต้นไม้จากพื้นที่ป่ามากกว่า 650,000 ตารางเมตร และคอนกรีตอีก 80,000 ตารางเมตร การสร้างสนามที่เรียกว่า “หัวใจของบราซิล” ได้เริ่มขึ้นแล้ว

 

UFABETWIN

 

เวลา 2 ปีผ่านไป สนามก็เสร็จสมบูรณ์ แอนเจโล่ เมนเดส เดอ โมราเอส นายกเทศมนตรีเมืองริโอ ถึงกับกล่าวว่า “วันนี้ชาวบราซิลสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า พวกเรามีสนามกีฬาที่ใหญ่และดีที่สุดในโลก ตอนนี้ได้เวลาที่โลกต้องประหลาดใจกับความกล้าหาญและความยิ่งใหญ่ด้านกีฬาของเราแล้ว”

นอกจากเรื่องของความยิ่งใหญ่ สนามแห่งนี้จะถือเป็นการสงบศึกภายในเรื่องการแบ่งแยกชนชั้นของแฟนบอลแต่ละสโมสร ที่มีเรื่องการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติกันในช่วงเวลานั้น อาทิ เซา เปาโล และ ฟลูมิเนนเซ่ ซึ่งถือเป็นตัวแทนของความร่ำรวยและกลุ่มคนชั้นแนวหน้าของประเทศ ส่วนตัวแทนของฝั่งชนชั้นแรงงานได้แก่ ฟลาเมงโก้ เป็นต้น และไม่ว่าคุณจะเชียร์ทีมใดหรือมาจากชนชั้นไหนสีผิวอะไร ทุกคนจะต้องมารวมกันที่สนามมาราคาน่า เพื่อร่วมกันเชียร์ “ทีมชาติบราซิล” สนามแห่งนี้คือตัวแทนของความเป็นหนึ่งเดียวของบราซิลในทางหนึ่งก็คงไม่ผิดนัก

สนามฟุตบอลที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก อัฒจันทร์เป็นลักษณะรูปวงกลมซ้อนกันขึ้นไป ชื่อ มาราคาน่า สเตเดียม มาจากชื่อของ แม่น้ำมาราคาน่า ที่ไหลผ่านไปยังส่วนต่างๆของประเทศบราซิล

ใหญ่ที่สุด จุคนเยอะที่สุด การเปิดสนามอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นในวันที่ 16 มิถุนายน 1950 ก่อนที่ฟุตบอลโลกจะเริ่ม โดยเป็นการเจอกันระหว่างทีมรวมดาราของรัฐ เซา เปาโล กับ รวมดาราของรัฐ ริโอ เดอ จาเนโร โดยในเกมนั้นมีการกล่าวอ้างโดยเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันของฝั่งบราซิลว่าสามารถจุคนดูได้ทั้งหมด 200,000 คน ในขณะที่ตัวแทนจาก กินเนสส์ บุ๊ก นั้นระบุว่าอยู่ที่ 155,000 คน หรือเต็มที่สุดๆ 180,000 คน ไม่เกินไปกว่านี้

เหตุผลที่ไม่สามารถระบุตัวเลขอย่างเป็นทางการได้ในตอนแรกเนื่องมาจากมีการเปิดขายตั๋วแบบไม่อั้นและขายในราคาที่ถูกมาก แม้ไม่ได้ระบุราคา แต่สำนักข่าวอย่าง BBC ก็บอกคร่าวๆว่ามันถูกมากพอที่ชนชั้นกลางค่อนล่างในกรุงริโอจะหาซื้อได้ นั่นหมายความว่าหากใครพอมีรายได้สักหน่อยก็สามารถเข้าไปชมเกมในมาราคาน่าได้อย่างไม่เบียดเบียนค่าครองชีพ

แต่การจะบอกว่าขายตั๋วได้ทั้งหมดกว่า 2 แสนใบคงเป็นไปได้ยาก นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ตัวเลขของทางกินเนสส์ บุ๊ก กับทางบราซิลรายงานมาไม่เหมือนกัน โดยมีการเปิดเผยในภายหลังว่าสาเหตุที่คนดูเข้าไปสนามมากกว่าความจุได้ เนื่องจากสนามมาราคาน่า เป็นสนามที่ไม่มีที่เก้าอี้นั่ง แต่จะเป็นอัฒจันทร์คอนกรีตยาวๆ ดังนั้น การเบียดเสียดกันบนอัฒจันทร์ก็อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ช่วยเพิ่มจำนวนคนได้มากอีก 20,000-50,0000 คน

และยิ่งไปกว่านั้น ในวันแข่งจริงยังมีบางส่วนของสนามที่มีช่องโหว่สามารถทำให้มีการถ่ายภาพได้ว่ามีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่สามารถเข้าสนามมาราคาน่าไปชมเกมการแข่งขันฟุตบอลโลกได้โดยที่ไม่มีตั๋ว

มาราคาน่า เป็นสังเวียนที่บราซิลลงแข่งขันในฟุตบอลโลก 1950 ในเกมนัดเปิดสนามที่ บราซิล ชนะ เม็กซิโก 4-0 โดยเกมนั้นมีการยืนยันจำนวนผู้เข้าชมอย่างเป็นทางการที่ 81,649 คน ก่อนจะเพิ่มเป็น 142,429 คนในเกมรอบสุดท้ายของนัดแบ่งกลุ่มที่ บราซิล ชนะ ยูโกสลาเวีย 2-0 และมาแตะหลัก 152,772 ในเกมรอบตัดสินแชมป์ที่ บราซิล ชนะ สเปน 6-1 (ฟุตบอลโลกครั้งดังกล่าว แชมป์ของทั้ง 4 กลุ่มจะต้องมาเตะแบบพบกันหมดเพื่อหาแชมป์โลก)

ณ เวลานั้น ทางการบราซิลพอใจมากกับตัวเลขผู้เข้าชมที่คิดเป็น 10% ของประชากรในนครริโอ เดอ จาเนโร แต่แล้วประวัติศาสตร์ก็ต้องจารึกเมื่อเกมนัดสุดท้ายมาถึง มาราคาน่า ทำลายสถิติเดิมของของตัวเองขาดลอย เมื่อ บราซิล มาเจอกับ อุรุกวัย เพื่อนร่วมทวีป ซึ่งกลายเป็นเกมตัดสินแชมป์โลกด้วย และมีแฟนอลเข้าชมเกมถึง 173,850 คนที่เป็นตัวเลขอย่างเป็นทางการ ซึ่งแน่นอนว่าจริงๆแล้วมันมากกว่านั้นอีก 20,000-30,000 คน บางที่ก็รายงานว่ามีคนมากกว่า 2 แสนคนอยู่ในสนามวันนั้น และนั่นทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า

ผู้คนที่อยู่ในสนามมาราคาน่าเมื่อนัดชิงฟุตบอลโลก 1950 ต่างเล่าถึงบรรยากาศว่า ในวันนั้นเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง ทั้งเสียงเชียร์ จำนวนคน และสภาพสนามที่ใหญ่โอ่อ่า หนึ่งในคนที่ออกมาถ่ายทอดผ่าน BBC คือ อัลซิเส กีญ่า นักเตะทีมชาติอุรุกวัยชุดนั้น ที่ออกมาบอกว่า “บรรยากาศพิเศษกว่าทุกสนามบนโลกนี้ กองเชียร์บราซิลกระโดดโลดเต้นด้วยความปลื้มปิติพร้อมกับความตื่นเต้น พวกเขามากันเกินความจุ เพราะคิดว่าพวกเขาจะจบการแข่งขันครั้งนี้ด้วยการเป็นแชมป์โลก”

ไม่แปลกที่ชาวบราซิลจะมั่นใจ พวกเขาฟอร์มดีมาตลอดทัวร์นาเมนต์ ยิงคู่แข่งถล่มทลาย ชนะ สเปน 6-1 ชนะ สวีเดน 7-1 เป็นต้น จนมีการทำเพลงเชียร์ที่มีชื่อว่า ขณะที่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นก็ใช้คำว่า แชมป์โลก อย่างอย่างพร่ำเพรื่อ ซึ่งในอีกทางมันคือการกระตุ้นให้แฟนๆอยากมีส่วนร่วมในเกมนัดประวัติศาสตร์เกมนี้

 

UFABETWIN

 

บราซิลเตรียมงานฉลองแชมป์และวางแผนจัดปาร์ตี้ขนาดใหญ่ตั้งแต่ที่เกมยังไม่ได้แข่งขัน นายกเทศมนตรีเมืองริโอให้โอวาทนักเตะก่อนแข่งขันว่า “คุณจะใช้เวลาอีก 2-3 ชั่วโมงต่อจากนี้เพื่อทำให้พวกเราได้ยกย่องว่าเราคือแชมป์ และมันจะเกิดขึ้นต่อหน้าผู้คนนับล้านที่นี่ ไม่มีคู่แข่งคนไหนที่จะต้านทานคุณได้อีกแล้ว คุณสามารถชนะได้ทุกทีม พวกคุณเป็นทีมที่ผมจะแสดงความยินดีในฐานะผู้ชนะในตอนจบของวันนี้”

อย่างไรก็ตาม อุรุกวัย ณ ตอนนั้นคือแชมป์โลก 1 สมัย (เมื่อปี 1930 ที่บ้านของพวกเขาเอง) การประกาศศักดาของสื่อบราซิลบนหน้าหนังสือพิมพ์ไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้ อับดูลิโอ บาเรล่า กัปตันทีมชาติอุรุกวัยชุดนั้น ใช้เป็นเครื่องมือในการปลุกระดมเพื่อนร่วมทีมของเขา ด้วยการซื้อหนังสือพิมพ์หลายๆฉบับมาวางลงบนพื้นห้องน้ำให้เพื่อนๆร่วมทีมของเขาเห็น เขาเริ่มถ่มน้ำลายและปัสสาวะรดหนังสือพิมพ์พวกนั้นเพื่อปลุกใจให้ทีมสามารถสร้างเหตุการณ์หักหน้าชาวบราซิลทั้งประเทศได้

เมื่อเกมเริ่มขึ้น บราซิล ยิงนำไปก่อนในนาทีที่ 47 โดย ฟรีช่า ประตูดังกล่าวสร้างปรากฏการณ์สนามแตกอย่างแท้จริง แฟนบอลบราซิลฝันไปไกลและคิดแผนฉลองแชมป์กันแล้ว ทว่าในช่วง 25 นาทีสุดท้ายของเกม อุรุกวัย ก็มายิง 2 ประตูพลิกกลับมานำและเป็นผู้ชนะ โดยคนยิงประตูชัยได้แก่ อัลซิเส กีญ่า ประตูของเขาทำให้สนามที่มีคนมากกว่า 2 แสนคนเงียบเป็นเป่าสากอย่างแท้จริง

“บรรยากาศเหมือนคุณกำลังไปงานศพญาติสนิท เหมือนพ่อเหมือนแม่เสียชีวิตเลย เราพูดไม่ออก มันเป็นช่วงเวลาที่เราควรส่งเสียงเชียร์ทีม แต่มันช็อกจนทุกคนเงียบกริบ” แฟนบอลรายหนึ่งกล่าวกับ BBC

“พวกเราไม่กระดุกกระดิกไปไหนนานกว่า 15 นาทีทันทีที่กรรมการเป่าจบเกม ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ แต่ที่แน่ๆ ผมรู้ชัดว่าสิ่งเลวร้ายที่สุดในโลกได้เกิดขึ้นกับผมแล้ว”

หลังความพ่ายแพ้ บาร์และร้านอาหารหลายแห่งในริโอ เดอ จาเนโร ปิดให้บริการตลอดทั้งวัน เนื่องจากไม่มีใครในเมืองอยากจะอยู่ในบรรยากาศงานรื่นเริงและไม่อยากออกไปไหน หนังสือพิมพ์เปลี่ยนพาดหัวข่าวอย่างรวดเร็วเพื่อรายงานสิ่งที่เกิดขึ้น สื่ออย่างต้องพาดหัวใหม่ว่า (ดราม่า, โศกนาฏกรรม และเรื่องขำขื่น)

การแข่งขันนัดนี้กลายเป็นที่รู้จักในชื่อ “Maracanazo” ซึ่งแปลว่า “การระเบิดที่ยิ่งใหญ่ของมาราคาน่า” และหลอกหลอนชาวบราซิลมาหลายทศวรรษ (ก่อนที่เกม เยอรมนี ยำ บราซิล 7-1 ในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2014 จะมาเทียบเคียง) ตำนานฟุตบอลบราซิล เปเล่ ที่ฟังวิทยุอยู่ที่บ้านจำได้เสมอว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นพ่อร้องไห้

และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดของสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก กับตอนจบที่ดราม่าแถมดูใจร้ายกับเจ้าภาพอย่างบราซิลเหลือเกิน

 

UFABETWIN